การสอบวัดความถนัดทั่วๆไป มีชื่อเต็มว่า General Aptitude Test ซึ่งจะมีข้อสอบอยู่ 2 ส่วน ได้แก่ ส่วนที่ 1 เรียกว่า GAT เชื่อมโยง จะเป็นการอ่าน เขียน คิด วิเคราะห์ และการแก้ปัญหา
GAT คือ การสอบวัดความถนัดทั่วๆไป มีชื่อเต็มว่า General Aptitude Test ซึ่งจะมีข้อสอบอยู่ 2 ส่วน ได้แก่ ส่วนที่ 1 เรียกว่า GAT เชื่อมโยง จะเป็นการอ่าน เขียน คิด วิเคราะห์ และการแก้ปัญหา มีคะแนนเต็ม 150 คะแนน ส่วนที่ 2 เรียกว่า GAT ENG นั้น จะเป็นความสามารถในการสื่อสารด้านภาษาอังกฤษ ส่วนนี้จะมีคะแนนเต็มที่ 150 คะแนน โดยข้อสอบมี 4 พาร์ท ดังนี้ Speaking and Conversation , Vocabulary , Structure and Writing , Reading Comprehension
PAT คือ การสอบวัดความถนัดทางด้านวิชาการและวิชาชีพ หรือที่มีชื่อเต็ม Professional and Academic Aptitude Test แบ่งเป็น 7 ฉบับ 13 ความถนัด ให้เลือกสอบตามความชอบของแต่ละคน จะมีคะแนนเต็มวิชาละ 300 คะแนน
อย่างที่รู้กันว่า GAT PAT คือข้อสอบที่วัดความถนัด ทั้งความถนัดทั่วๆไปและความถนัดเฉพาะด้าน ดังนั้นการที่เราจะนำคะแนน GAT PAT นี้ไปยื่นคณะไหนตามความชอบของเรา แสดงว่าเราก็มีความถนัดในด้านนั้นอยู่แล้ว แต่อาจจะมีความประหม่าอยู่บ้าง ปัญหาเหล่านั้นจะหมดไปด้วย “การเตรียมตัว” ที่ดี หากคุณมีการเตรียมความพร้อมเป็นอย่างดีก่อนถึงวันลงสนามสอบจริง มีโค้ชหรือติวเตอร์ที่ช่วยปรับ หรือเสริมความถนัดของเราตรงนี้ให้แข็งแกร่งขึ้นทำให้โอกาสที่จะประสบความสำเร็จมีมากขึ้นและเสริมความมั่นใจในการทำข้อสอบของคุณให้มากยิ่งขึ้น โดยการเรียนตัวต่อตัว ติวเตอร์เป็นกันเอง สามารถสอบถามได้ทุกเมื่อ